การแข่งขันฟุตบอลโลกไม่เพียงแต่เป็นเวทีที่รวมดาวเตะระดับโลกไว้ด้วยกันเท่านั้น แต่ยังเป็นการแข่งขันที่ได้รับความสนใจจากแฟนบอลทั่วโลกทุกสี่ปี และหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้การแข่งขันสนุก ตื่นเต้น และคาดเดาไม่ได้ ก็คือการแบ่งกลุ่มบอลโลก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสู่ความเป็นแชมป์โลก บทความนี้ทีมงาน fun88 จะพาคุณเจาะลึกทุกแง่มุมที่เกี่ยวกับฟุตบอลโลก พร้อมข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับ ประวัติฟุตบอลโลก และ แชมป์บอลโลกแต่ละปี เพื่อให้แฟนบอลทุกคนได้เต็มอิ่มกับเนื้อหาสุดพิเศษ
กลุ่มบอลโลกคืออะไร? สำคัญอย่างไรกับการแข่งขัน
กลุ่มบอลโลก คือการแบ่งทีมชาติที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายของฟุตบอลโลกออกเป็นกลุ่มๆ โดยแต่ละกลุ่มจะมีจำนวนทีมเท่ากัน (ส่วนใหญ่คือ 4 ทีม) ซึ่งจะแข่งขันกันแบบพบกันหมดในรอบแรก เพื่อคัดเลือกทีมที่มีคะแนนสูงสุด 2 อันดับแรกของแต่ละกลุ่มเข้าสู่รอบน็อกเอาต์
เนื่องจากการแบ่งกลุ่มการแข่งขันนี้มีความสำคัญมาก เพราะสามารถกำหนดชะตาของทีมว่าจะเจอกับใครในรอบต่อไป การจับสลากแบ่งกลุ่มจึงเป็นเหตุการณ์ที่ทุกสายตาจับจ้อง เพราะสามารถเกิด Group of Death ที่รวมทีมระดับแชมป์หรือทีมแกร่งหลายทีมไว้ในกลุ่มเดียวกัน ทำให้การแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่มเข้มข้นมากกว่าที่เคย ซึ่ง ณ ขณะนี้ยังไม่ถึงกำหนดการณ์แบ่งกลุ่มแข่งฟุตบอลโลกอย่างเป็นทางการ ทางทีมงานฟัน88 จึงได้ทำการสรุปข่าวคราวต่างๆ เกี่ยวกับการแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลกโวนเอเชียของเรามาให้เพื่อนๆ ได้ทราบก่อน
สรุปผลจับฉลากแบ่งกลุ่มบอลโลก ปี 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสาม
สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (AFC) ได้ทำการจับสลากแบ่งกลุ่มบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสาม เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2024 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยมีรายละเอียดดังนี้
รูปแบบการแข่งขัน
- จำนวนทีม: 18 ทีม
- แบ่งกลุ่ม: 3 กลุ่ม กลุ่มละ 6 ทีม
- การแข่งขัน: แข่งขันแบบเหย้า-เยือน รวม 10 นัดต่อทีม
การผ่านเข้ารอบ
- อันดับ 1 และ 2 ของแต่ละกลุ่ม (รวม 6 ทีม) จะผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2026 โดยอัตโนมัติ
- ทีมอันดับ 3 และ 4 จากแต่ละกลุ่ม (รวมทั้งหมด 6 ทีม) จะผ่านเข้าสู่รอบคัดเลือกรอบที่สี่ เพื่อแข่งขันกันต่อในการชิงโอกาสเข้าสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเพิ่มเติม
ผลการจับสลากแบ่งกลุ่ม
กลุ่ม A: ประเทศอิหร่าน, ประเทศกาตาร์, ประเทศอุซเบกิสถาน, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี), ประเทศคีร์กีซสถาน และประเทศเกาหลีเหนือ
กลุ่ม B: ประเทศเกาหลีใต้, ประเทศอิรัก, ประเทศจอร์แดน, ประเทศโอมาน, ประเทศปาเลสไตน์ และประเทศคูเวต
กลุ่ม C: ประเทศญี่ปุ่น, ประเทศออสเตรเลีย, ประเทศซาอุดีอาระเบีย, ประเทศบาห์เรน, ประเทศจีน และประเทศอินโดนีเซีย
กลุ่ม C จัดเป็นกลุ่มที่โหดหินมากๆ ถูกยกให้เป็นหนึ่งใน “กรุ๊ปออฟเดธ” หรือกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุด เนื่องจากมีทีมระดับแนวหน้าของเอเชียอย่าง ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย และซาอุดีอาระเบีย รวมตัวกันอยู่ในกลุ่มเดียว ทำให้การแข่งขันในกลุ่มนี้ดุเดือดและน่าจับตามองเป็นพิเศษ ทั้งในแง่ของคุณภาพทีมและความเป็นไปได้ในการพลิกล็อก
กระบวนการจับสลากกลุ่มบอลโลก
การจัดกลุ่มบอลโลกในรอบสุดท้ายจะใช้วิธีจับสลาก โดยจะมีการแบ่งทีมชาติทั้งหมดออกเป็นโถ (Pot) ตามอันดับโลกและโซนทวีป ก่อนทำการจับฉลากทีละทีมไปใส่ในกลุ่มต่าง ๆ อย่างเท่าเทียมกัน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ทีมจากทวีปเดียวกันมาอยู่กลุ่มเดียวกันเกินกำหนด
ตัวอย่างเช่น ในฟุตบอลโลกปี 2022 ที่กาตาร์เป็นเจ้าภาพ ทีมชาติทั้งหมด 32 ทีม ถูกจับสลากแบ่งเป็น 8 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม โดยเจ้าภาพจะอยู่ในกลุ่ม A โดยอัตโนมัติ จากนั้นจึงมีการจับทีมอื่นมาเติมในกลุ่มต่าง ๆ ตามลำดับ
วิเคราะห์ความตื่นเต้นจากกลุ่มบอลโลกที่ผ่านมา
เมื่อพูดถึง กลุ่มบอลโลก หลายครั้งที่แฟนบอลยังจำได้ดีถึงกลุ่มที่โหดที่สุด เช่น ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล กลุ่ม D ซึ่งประกอบไปด้วย อังกฤษ, อิตาลี, อุรุกวัย และคอสตาริกา ถูกยกให้เป็นหนึ่งในกลุ่มที่โหดที่สุด หรือ Group of Death นื่องจากเต็มไปด้วยทีมระดับแชมป์โลก ขณะที่ในฟุตบอลโลก 2018 กลุ่ม F ก็เป็นที่พูดถึงไม่แพ้กัน เมื่อแชมป์เก่าอย่างเยอรมนีต้องอยู่ร่วมกลุ่มกับ เม็กซิโก, สวีเดน และเกาหลีใต้ ซึ่งสุดท้ายก็เกิดเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่เมื่อเยอรมนีต้องกระเด็นตกรอบตั้งแต่รอบแรก
นี่คือตัวอย่างของความเข้มข้นของการแบ่ง กลุ่มฟุตบอลโลก ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อทีมเต็งและโอกาสในการคว้าแชมป์
ประวัติฟุตบอลโลก: จากอดีตสู่ความยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน
ประวัติฟุตบอลโลก เริ่มต้นขึ้นในปี 1930 โดยมีการจัดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศอุรุกวัย และมีเพียง 13 ทีมเข้าร่วม โดยในครั้งนั้น อุรุกวัยคว้าแชมป์ไปครอง หลังจากนั้น FIFA ได้พัฒนาการจัดการแข่งขันให้ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และกลายเป็นมหกรรมกีฬาระดับโลกที่มีคนดูมากที่สุด
จนถึงปัจจุบัน ฟุตบอลโลกมีการจัดไปแล้วกว่า 22 ครั้ง (ณ ปี 2022) และในปี 2026 จะมีการขยายจำนวนทีมจาก 32 ทีมเป็น 48 ทีม ซึ่งจะทำให้มี กลุ่มบอลโลก เพิ่มขึ้นจาก 8 กลุ่มเป็น 12 กลุ่ม
แชมป์บอลโลกแต่ละปี: ทีมใดคว้าชัยในอดีต
หากพูดถึง แชมป์บอลโลกแต่ละปี จะพบว่ามีไม่กี่ประเทศที่สามารถคว้าแชมป์ได้หลายครั้ง เช่น
- บราซิลแชมป์ฟุตบอลโลก 5 สมัย (1958, 1962, 1970, 1994, 2002)
- เยอรมนีแชมป์บอลโลก 4 สมัย (1954, 1974, 1990, 2014)
- อาร์เจนตินาแชมป์บอลโลก 3 สมัย (1978, 1986, 2022)
- อิตาลีแชมป์บอลโลก 4 สมัย (1934, 1938, 1982, 2006)
- ฝรั่งเศสแชมป์บอลโลก 2 สมัย (1998, 2018)
แชมป์เหล่านี้ต่างต้องฝ่าด่านหินในตารางแข่งทีมบอลโลกมาก่อนเสมอ เพราะหากพลาดตั้งแต่รอบแรก ก็จะไม่มีโอกาสไปไกลในรายการ
ฟุตบอลโลก 2026: โฉมใหม่ของกลุ่มบอลโลก
สำหรับฟุตบอลโลกปี 2026 ที่จะจัดร่วมกันโดย 3 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก จะมีทีมเข้าร่วมเพิ่มขึ้นเป็น 48 ทีม และจะมีการจัด กลุ่มบอลโลก ทั้งหมด 12 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม โดยรอบต่อไปจะคัดทีมที่ดีที่สุด 2 อันดับจากแต่ละกลุ่ม พร้อมกับทีมอันดับ 3 ที่มีผลงานดีที่สุดอีก 8 ทีม ไปเล่นรอบ 32 ทีมสุดท้าย การขยายจำนวนทีมทำให้การแข่งขันยิ่งใหญ่ขึ้น และการแบ่งกลุ่มจะยิ่งน่าจับตา เพราะมีโอกาสสูงที่จะเกิดกลุ่มที่สมดุลน้อยหรือกลุ่มแห่งความตายเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ การเพิ่มจำนวนทีมเป็น 48 ทีมยังเปิดโอกาสให้ชาติจากทวีปเล็กหรือชาติที่ไม่เคยเข้าร่วมฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาก่อน มีโอกาสได้แสดงฝีเท้าบนเวทีระดับโลกมากขึ้น ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาฟุตบอลในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก ขณะเดียวกัน แฟนบอลก็จะได้เห็นความหลากหลายของสไตล์การเล่นและการปะทะกันระหว่างทีมที่อาจไม่เคยพบกันมาก่อนในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก เพิ่มสีสันและความตื่นเต้นให้กับการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่มมากยิ่งขึ้น
ความสำคัญของการวางแผนกลุ่มบอลโลก
ทีมชาติแต่ละทีมต้องเตรียมตัวรับมือกับคู่แข่งในกลุ่มให้ดีที่สุด หากพลาดตั้งแต่รอบแรกก็จะหมดโอกาสเข้ารอบต่อไป ดังนั้นแผนการเล่น การวิเคราะห์จุดอ่อนคู่แข่ง และการมีขุมกำลังพร้อมลุยทุกรูปแบบคือสิ่งสำคัญอีกทั้ง การวางแผนในเชิงกลยุทธ์ยังรวมไปถึงการบริหารจัดการพละกำลังนักเตะให้เหมาะสมกับตารางการแข่งขันที่เข้มข้น โดยเฉพาะในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่ต้องลงสนามต่อเนื่องภายในระยะเวลาสั้น ๆ การตัดสินใจเลือกผู้เล่นตัวจริง และการรับมือกับอาการบาดเจ็บล้วนมีผลโดยตรงต่อโอกาสในการผ่านเข้ารอบ
นอกจากนี้ ทีมที่มีข้อมูลวิเคราะห์คู่แข่งเชิงลึก เช่น รูปแบบการขึ้นเกม จุดอ่อนในการตั้งรับ หรือพฤติกรรมผู้เล่นหลัก จะสามารถวางแผนโต้กลับหรือโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แนะแนวคอบอล ทางเตรียมตัวเชียร์บอลโลกตามกลุ่ม
สำหรับคอบอลที่กำลังเตรียมตัวรอเชียร์ฟุตบอลโลก 2026 อย่างใจจดใจจ่อ ทีมงานของ fun88 ขอแนะนำว่า การวางแผนการเชียร์ตามกลุ่มถือเป็นเรื่องที่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการติดตามอย่างมาก โดยเริ่มจากการ เลือกทีมที่ชอบหรือประเทศที่สนใจ แล้วศึกษาว่าอยู่กลุ่มไหน แข่งกับใครบ้าง และมีโอกาสเข้ารอบมากน้อยแค่ไหน จากนั้นสามารถจดตารางการแข่งขันของกลุ่มนั้น ๆ ไว้ล่วงหน้า เพื่อไม่พลาดแมตช์สำคัญ โดยเฉพาะในช่วงรอบแบ่งกลุ่มที่มีการแข่งขันหลายคู่ในวันเดียว
การรู้ล่วงหน้าจะช่วยให้คุณจัดเวลาได้ดีขึ้น นอกจากนี้ควรติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับฟอร์มของนักเตะ อาการบาดเจ็บ หรือแท็กติกของทีมที่ชื่นชอบ เพื่อเข้าใจเกมมากยิ่งขึ้น และถ้าหากเชียร์เป็นกลุ่มกับเพื่อน ๆ ก็อาจจัดกิจกรรมเล็ก ๆ เช่น ทายผลก่อนเกม หรือแต่งตัวตามธีมชาติที่เชียร์ เพื่อสร้างบรรยากาศให้สนุกสนานมากขึ้นอีกด้วย หรือสำหรับท่านที่วางแผนเดิมพันแทงบอลล่วงหน้าหรือแทงบอลโลกสดก็เข้าแทงได้ตามตารางแข่งฟุตบอลโลกบนเว็บแทงบอลออนไลน์ฟัน88
คำถามที่พบบ่อย
กลุ่มบอลโลกมีวิธีแบ่งอย่างไร?
A: กลุ่มบอลโลกจะถูกแบ่งโดยการจับสลากจากโถตามอันดับโลกของ FIFA และโซนทวีป เพื่อความสมดุลของการแข่งขัน
กลุ่มแห่งความตาย Group of Death ในบอลโลกคืออะไร?
A: คือกลุ่มที่มีทีมแกร่งหรือทีมเต็งแชมป์อยู่รวมกันหลายทีม ทำให้แต่ละนัดของกลุ่มนี้ล้วนตึงเครียดและยากต่อการผ่านเข้ารอบ
การจับสลากแบ่งกลุ่มบอลโลกใช้เกณฑ์อะไร?
A: ใช้เกณฑ์อันดับโลก FIFA, ทวีปที่ทีมสังกัด, และผลงานในรอบคัดเลือกเพื่อจัดลำดับในการจับสลากเข้ากลุ่มต่าง ๆ
ตารางแข่งทีมฟุตบอลโลก 2026 จะมีการจัดกลุ่มอย่างไร?
A: จะมีการแบ่งออกเป็น 12 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม รวมทั้งหมด 48 ทีม ซึ่งนับเป็นการขยายครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติฟุตบอลโลก