แชมป์บอลโลกย้อนหลัง ส่วนใหญ่แชมป์คือทีมจากยุโรป

นับตั้งแต่ที่บราซิล คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 5 ของพวกเขาได้เมื่อปี 2002 หลังจากนั้นก็เป็นทีของทีมจากยุโรป ที่ผลัดกันขึ้นมาคว้าแชมป์ ซึ่งถ้าไล่ดู แชมป์บอลโลกย้อนหลัง ก็จะเห็นได้ว่า มีทั้งอิตาลีกับสเปน ที่ทำได้ในปี 2006 และ 2010 ตามมาด้วยเยอรมนีกับฝรั่งเศส ที่คว้าแชมป์ได้ในปี 2014 และ 2018 เป็น 4 ครั้งติดที่ทีมจากทวีปนี้ได้แชมป์ ก่อนที่อาร์เจนฯจะหยุดได้

แชมป์บอลโลกย้อนหลัง ชาติจากยุโรปยังเหนือกว่าทุกทวีป

ถ้าเราย้อนกลับไปดูสถิติ แชมป์บอลโลกย้อนหลัง นับตั้งแต่ปี 1962-2006 จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ทีมจากอเมริกาใต้ กับทีมจากยุโรป ผลัดกันคว้าแชมป์ได้ฝั่งละ 1 ครั้งมาโดยตลอด ไม่มีฝั่งไหนที่มีทีมได้แชมป์ 2 ครั้งซ้อน ยุโรปก็ทำไมได้ อเมริกาใต้ก็ทำไม่ได้ โดยจะมีทีมของอีกทวีปเข้ามาเบรกได้อยู่เสมอ

1. แชมป์โลก เป็นการคว้าแชมป์สลับกันระหว่างอเมริกาใต้กับยุโรป ในช่วงปี 1962-2006
2. หากแข่งในยุโรป ทีมจากยุโรปจะได้แชมป์ แต่ถ้าแข่งที่อเมริกาเหนือหรืออเมริกาใต้ ทีมยุโรปจะไม่ได้แชมป์
3. สเปน คือทีมยุโรปชาติแรก ที่ได้แชมป์นอกแผ่นดินยุโรป ในปี 2010

ซึ่งถ้าเรานับการแข่งขัน 5 นัดหลังสุด ผู้ชมที่ได้ ดูบอลสดบอลโลก หรือคนที่ติดตามผลย้อนหลังในช่วงที่ผ่านมา คงได้เห็นไปแล้วว่า 4 จาก 5 ครั้งที่ทีมจากยุโรปได้แชมป์ ไม่ใช่การสลับกันคว้าแชมป์ระหว่างยุโรปกับอเมริกาใต้เหมือนเมื่อก่อน เว้นแต่จะมีทีมจากยุโรปที่ได้แชมป์โลก 2026 ถึงจะเป็นการคว้าแชมป์ได้ต่อจากฝั่งอเมริกาใต้ (อาร์เจนติน่า แชมป์โลก 2022)

สภาพอากาศ ที่มีผลต่อผู้เล่นแต่ละทวีป

ก่อนหน้านี้เคยมีการวิเคราะห์เอาไว้ว่า สิ่งที่ทำให้ทีมจากอเมริกาใต้ ได้แชมป์อยู่เสมอเวลาที่ฟุตบอลโลก มีการแข่งขันนอกแผ่นดินยุโรป ก็คือความคุ้นชินกับสภาพอากาศ ซึ่งผู้เล่นจากอเมริกาใต้ มักปรับตัวเข้ากับอากาศร้อนได้ดีกว่า เวลาแข่งที่อเมริกาใต้ เม็กซิโก หรือสหรัฐฯ และโดยส่วนใหญ่ก็มักแข่งขันกันในตอนกลางวันด้วย

และผลลัพธ์ที่บราซิลกับอาร์เจนติน่า ผลัดกันได้ แชมป์บอลโลก ที่แข่งนอกยุโรปมา ช่วยยืนยันในข้อมูลนี้ได้อย่างชัดเจน แต่หลังจากที่สเปนปลดล็อกคว้าแชมป์มาได้ ในการแข่งขันเมื่อปี 2010 ที่แอฟริกาใต้ ตามมาด้วยแชมป์โลกของเยอรมนี บนแผ่นดินบราซิล เมื่อปี 2014 ทำให้ใครก็ตามที่บอกว่า มันเป็นอาถรรพ์ ก็ฟังดูไม่มีน้ำหนักมากเหมือนก่อน

บราซิล อาร์เจนติน่า สองยักษ์ใหญ่จากอเมริกาใต้

ถ้าเราย้อนกลับไปในช่วงปี 1930-1954 อาจจะต้องนับอุรุกวัยเข้าไปด้วย เพราะพวกเขามีดีกรีเป็น แชมป์บอลโลก 2 สมัย ในปี 1930 และ 1950 ก่อนที่จะได้อันดับ 4 ในปี 1954 แล้วหลังจากนั้นเป็นต้นมา ทีมจอมโหดไม่ได้มีผลงานที่ดูเหมือนทีมเต็งเลยแม้แต่น้อย เพราะไม่ได้เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ไม่ได้แชมป์เพิ่มอีกเลย อีกทั้งยังแทบไม่ได้เข้ารอบลึกเลยด้วย

ในขณะเดียวกัน บราซิลกับอาร์เจนติน่า ได้แสดงให้เห็นว่า พวกเขาคือยักษ์ใหญ่ของทวีปอเมริกาใต้อย่างแท้จริง ด้วยแชมป์ที่ได้มา (บราซิล 5 สมัย, อาร์เจนติน่า 3 สมัย) หรือถ้าไม่ได้แชมป์ ก็เข้ารอบลึก ๆ ได้ตลอด มาตรฐานสูงมาก และนั่นก็ทำให้ในการ ถ่ายทอดสดบอลโลกวันนี้ ทั้งสองทีมต่างถูกคาดหมายว่า เป็น 1 ในกลุ่มทีมเต็ง ที่มีโอกาสลุ้นแชมป์

การคว้าแชมป์ที่อยู่ในความทรงจำของแฟนบอล

อันที่จริงไม่ว่าจะเป็นการคว้าแชมป์ในครั้งใด มันก็ถือเป็นการคว้า แชมป์บอลโลก ที่น่าจดจำของแฟนบอลทุกคนในชาติ โดยเฉพาะคนที่มีโอกาสได้ ดูบอลสดบอลโลก ก็น่าจะมีความประทับใจเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ อย่างเช่นคนที่ทันเห็น เปเล่ ลงเล่นให้กับบราซิล และคว้าแชมป์โลก 3 สมัยกับทัพเซเลเซาได้ในปี 1958, 1962 และ 1970

หรือคนที่ทันเห็น โรนัลโด้ กับ ริวัลโด้ รวมไปถึงสตาร์อย่าง โรนัลดินโญ่ ลงเล่นในฟุตบอลโลก 2002 คว้าแชมป์โลกบนแผ่นดินเอเชีย นั่นก็ถือเป็นความทรงจำที่ยากจะลืม ในขณะที่ฝั่งอาร์เจนติน่า ผลงานของ ดีเอโก้ มาราโดน่า ที่แบกทีมจนไปถึงแชมป์โลก 1986 ถูกจารึกเอาไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังมีแชมป์โลก 2022 ที่พวกเขาได้ ลิโอเนล เมสซี่ สยบโลกไว้ทั้งใบ

แชมป์ที่โดนวิจารณ์ว่าน่ากังขา

การคว้าแชมป์ที่อาจเรียกได้ว่า อื้อฉาวที่สุดในเวทีนี้ ก็ต้องยกให้เป็น แชมป์บอลโลก เมื่อปี 1966 ของทีมชาติอังกฤษ โดยประตูที่เกิดขึ้นในช่วงต่อเวลาพิเศษ นัดชิงชนะเลิศ เจฟฟ์ เฮิร์สต์ ยิงแสกหน้าให้เจ้าภาพสิงโตคำราม ขึ้นนำ 3-2 โดยที่หลังจากนั้นมีภาพช้าที่เผยให้เห็นว่า บอลน่าจะยังไม่ข้ามเส้นเข้าประตูเลยด้วยซ้ำ

แต่ถ้ามีเกมในฟีฟ่า เวิลด์คัพ ที่ถูกมองว่า น่ากังขาในสายตาของแฟนบอลทั่วโลก แน่นอนว่าฟุตบอลโลก 2002 ในเกมที่เกาหลีใต้ลงแข่งขัน มาเป็นอันดับ 1 ในขณะเดียวกันก็มีเกมที่อังกฤษเจอกับเยอรมนีในปี 2010 ประตูจาก แฟรงค์ แลมพาร์ด ข้ามเส้นแต่ไม่ได้ประตู ก็ยังคงถูกพูดถึงมาจนถึงทุกวันนี้

ซึ่งใน ผลบอลบอลโลก 2026 หลายฝ่ายต่างคาดหวังว่า จะเป็นการแข่งขันที่โปร่งใส ทุกเหตุการณ์มีตัวช่วยที่ทำให้เป็นการตัดสินที่ใสสะอาด ทำให้ผู้ชมมั่นใจที่จะติดตามดูการถ่ายทอดสดผ่าน ลิงค์ดูบอลโลก 2026 โดยที่เป็นการ ดูบอลโลกฟรี พร้อมกับลงเดิมพันผ่านเว็บได้

เลือกแทงทีมแชมป์ ตามผลงานที่ผ่านมา

ตัวแปรสำคัญในการติดตามลุ้นผลการแข่งขัน ในระหว่างที่ ดูบอลโลก 2026 สด ก็คือการย้อนกลับไปดูผลงานของแต่ละทีม ในเกมรอบคัดเลือก เกมอุ่นเครื่อง ดูฟอร์มของนักเตะแต่ละคน ในช่วง 1-2 ปีหลังสุด ก่อนที่การแข่งขันบนแผ่นดินของ เจ้าภาพบอลโลก 2026 จะเปิดฉาก และข้อมูลเหล่านั้นก็มีผลกับการนำไปใช้แทงบอลออนไลน์ ผ่านเว็บเดิมพันกีฬาด้วยเช่นกัน

ส่วนทีมที่ถูกยกให้เป็นทีมเต็ง ที่มีโอกาสคว้า แชมป์บอลโลก มากเป็นลำดับต้น ๆ ของรายการ จากข้อมูลที่มีอยู่ในตอนนี้ ก็คงต้องยกให้ยักษ์ใหญ่จากฝั่งยุโรปกับอเมริกาใต้ ทั้งทีมที่เคยได้แชมป์และยังไม่เคยได้มาก่อน

• ฝรั่งเศส อังกฤษ สเปน โปรตุเกส กลุ่มตัวเต็งจากฝั่งยุโรป
• อาร์เจนติน่า บราซิล สองมหาอำนาจลูกหนังจากอเมริกาใต้

ซึ่งถ้าจะมีทีมที่คว้าถ้วยรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดรายการนี้ ไปครองได้อย่างที่หลายฝ่ายคาดหวังเอาไว้ก่อนเริ่มรายการ ก็ไม่น่าจะมีผลที่ผิดไปจากทีมเหล่านี้ ด้วยผลงานในช่วงหลัง และคุณภาพของตัวผู้เล่น ที่มีอยู่ในแต่ละทีม ซึ่งอย่างน้อยก็คาดหวังได้เลยว่า การคว้าที่ 1 ของ ตารางคะแนนบอลโลก 2026 ในรอบแบ่งกลุ่ม ถือเป็นพื้นฐานที่พวกเขาน่าจะทำได้ไม่ยาก

และแน่นอนว่าก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มต้น คุณสามารถเลือกแทงทีมแชมป์ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ หรือจะแทงบอลสด เน้นแทงทีมเหล่านี้ชนะในแต่ละเกม ระหว่างที่มีการแข่งในแต่ละนัด ก็สามารถทำได้ทันที

ม้านอกสายตา ที่มีโอกาสแซงหน้าไปคว้าแชมป์

มีแฟนบอลอยู่ส่วนหนึ่งที่ไม่ได้แทงบอล โดยเลือกแทงแต่ทีมเต็งอย่างเดียว แต่พยายามวิเคราะห์เพื่อมองหาทีมที่มีโอกาสเป็นม้ามืด แล้วกลายมาเป็น แชมป์บอลโลก ได้อย่างเหนือความคาดหมาย รวมไปถึงการหาม้ามืดที่อาจพลิกล็อกเอาชนะทีมเต็ง ในการแข่งขันแต่ละเกม เพื่ออัตราจ่ายที่ดีกว่าการลุ้นให้ทีมใหญ่ชนะ

เหมือนอย่างที่เราได้เห็นโมร็อกโก ผ่านเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ ในฟุตบอลโลกครั้งก่อน หรือเกมที่ซาอุฯพลิกล็อกเอาชนะเต็ง 1 อย่างอาร์เจนติน่า ตั้งแต่เกมแรกของรอบแบ่งกลุ่ม นั่นคือตัวอย่างที่สามารถเกิดขึ้นได้ในการแข่งครั้งนี้